หากคุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และขณะเดียวกันยังปกป้องเครื่องจักรซึ่งเป็นทรัพย์สินที่สำคัญที่สุดของโรงกลึง ต่อไปนี้คือเหตุผลหลักในการทำให้น้ำมันตัดกลึงและตัวกรองของคุณสะอาด พร้อมคำแนะนำวิธีจัดการ
ในความจริงแล้ว แม้แต่น้ำหล่อเย็นที่ผสมเสร็จใหม่ ๆ ก็มีส่วนประกอบจากสารเคมีหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นสารฆ่าเชื้อ อิมัลซิไฟเออร์ สารยับยั้งการเกิดสนิม สารลดฟอง และอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ผื่น ไปจนถึงอาจทำให้ผิวหนังอักเสบ ซึ่งหากไม่มีการดูแลรักษาน้ำมันคูลแลนท์ที่ดี สารเคมีพวกนี้ก็อาจสะสมมากจนเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ หากมีการบำรุงรักษาที่ไม่เหมาะสม บ่อพักน้ำเสียของเครื่องจักรอาจกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคได้อีกด้วย
เพราะจุลินทรีย์จำพวกแบคทีเรียสามารถเติบโตได้ในน้ำมันที่มีความเข้มข้นต่ำ ทำให้ค่า pH ลดลงจนอาจเกิดสนิมในเครื่องจักรได้ และแบคทีเรียเหล่านี้ยังสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวไปจนถึงทำให้บาดแผลเกิดการระคายเคืองได้ ซึ่งในกรณีน้ำมันที่มีความเข้มข้นมากเกินไปก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ น้ำหล่อเย็นที่ใช้งานแล้วก็เป็นไปได้ที่จะมีเศษตัดผสมอยู่ หากเป็นเศษขนาดใหญ่ก็อาจทำให้เกิดบาดแผลได้ แต่หากเป็นเศษตัดขนาดเล็กที่มาพร้อมกับน้ำหล่อเย็นที่กระเซ็นออกมา ชางกลึงก็จะใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดผิวหนัง ซึ่งเศษตัดเล็ก ๆ เหล่านี้จะถูกผ้าลากไปตามผิวหนังจนเกิดรอยแตกขนาดเล็กซึ่งอาจมองไม่เห็นและเข้าใจว่าเป็นแค่การระคายเคืองผิว
ดังนั้น การทำความสะอาดน้ำมันหล่อเย็นออกจากผิวต้องใช้ความระมัดระวัง เริ่มจากล้างมือด้วยสบู่อ่อน ๆ ที่ไม่มีฤทธิ์กัดกร่อน ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ให้ผิวชุ่มชื่น ป้องกันการดูดซับสารเคมี สวมถุงมือไนไตรหรือถุงมือใช้แล้วทิ้งหากเป็นไปได้ และหลีกเลี่ยงการใช้ตัวทำละลายในการทำความสะอาด เนื่องจากตัวทำละลายจะขจัดน้ำมันตามธรรมชาติบนผิว ทำให้ผิวหนังไม่ได้รับการปกป้อง
เยื่อหุ้มปอดมีความไวต่อการระคายเคืองมากกว่าผิวหนัง ซึ่งจะเป็นอันตรายมากหากคุณต้องทำงานกับเครื่องจักรไฮสปีด หรือเครื่องที่ใช้สปินเดิลรอบหมุนสูง เพราะจะก่อให้เกิดละอองน้ำมันขนาดเล็กที่สามารถเข้าไปในระบบหายใจได้ง่าย และที่เลวร้ายกว่านั้นคือ ผลกระทบจากละอองน้ำมันต่อระบบหายใจนั้นไม่สามารถสังเกตได้จนกว่าจะผ่านไปอีกหลายปี
โดยทั่วไปแล้ว น้ำมันที่ใช้ในงานโลหะมักมีความเป็นด่าง และมีค่า pH ประมาณ 8.6 หรือสูงกว่า ซึ่งช่วยป้องกันการกัดกร่อนของพื้นผิวโลหะ ควบคุมจุลินทรีย์ และลดการระคายเคืองต่อผิวหนังเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม น้ำมันที่มีความเป็นด่างมักจะกัดสีและซีลยาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเครื่องจักรรุ่นเก่าที่ไม่ได้ออกแบบไว้ให้ทนต่อน้ำมันคูลแลนท์
เมื่อคราบน้ำมันผสมเข้ากับน้ำหล่อเย็นจะทำให้น้ำมันข้นและหนืดขึ้น กลายเป็นอาหารของแบคทีเรีย และเมื่อบ่อพักน้ำเวียนในเครื่องจักรเต็มไปด้วยเศษตัด ก็ทำให้การบำรุงรักษาเครื่องจักรทำได้ยากขึ้นไปอีก
ดังนั้น คุณจึงควรทำความะอาดเครื่องจักรหลังใช้งานและตรวจซอบซีลเป็นประจำ รวมถึงติดตั้ง Oil Skimmer หรือเครื่องแยกคราบน้ำมัน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหล่อเย็นกลายเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย
นอกจากนี้ สิ่งที่คุณอาจคิดไม่ถึงคือเศษตัดและตะกอนสามารถเข้ามาแทนที่น้ำมันคูลแลนท์ได้ ทำให้ปริมาณของน้ำมันไม่คงที่ แต่ในทางกลับกัน หากดูแลบ่อพักน้ำเสียในเครื่องเป็นประจำ ก็จะทำให้การควบคุมน้ำมันคูลแลนท์เป็นไปได้ง่ายขึ้น
คำแนะนำคือ ควรหมั่นตรวจสอบค่า pH ของน้ำมันคูลแลนท์เป็นประจำสัปดาห์ละครั้ง หากพบว่าค่า pH ลดลง ก็เป็นไปได้มากว่าจะมีความผิดปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาทำความสะอาด หรือเปลี่ยนน้ำมันคูลแลนท์แล้ว
น้ำมันคูลแลนท์มีบทบาทในการหล่อลื่นและระบายความร้อนออกจากการกัดชิ้นงาน อย่างไรก็ตาม เมื่อน้ำหล่อเย็นแตกตัวก็จะได้เป็นกำมะถัน คลอรีน และสารประกอบความดันสูงอื่น ๆ ส่งผลให้เครื่องมือและเครื่องจักรมีอายุการใช้งานต่ำลง และอาจทำให้เกิดสนิมในตัวเครื่องจักรได้ นำมาซึ่งปัญหาด้านความแม่นยำและคุณภาพของชิ้นงาน
การบำรุงรักษาและการกำจัดน้ำมันย่อมมีค่าใช้จ่าย แต่อย่างไรเสีย ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ยังถูกกว่าเครื่องจักรไม่สามารถใช้งานได้ ดังนั้น การยืดอายุการใช้งานของน้ำมันคูลแลนท์จึงเป็นอีกทางเลือกที่ควรพิจารณา และสำหรับโรงงานที่มีเครื่องจักรหลายเครื่องก็อาจพิจารณาตั้งหน่วยงานรีไซเคิลน้ำมันหล่อเย็นได้
สุทอง แมชชีนเนอรี่
ดำเนินการธุรกิจนำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรอุตสาหกรรมงานโลหะ
เครื่อง CNC และ Cobot (Collaborative Robot) ครบวงจร
● สามารถเข้าชมเครื่องจักรได้ที่โชว์รูม สุทอง แมชชีนเนอรี่
● เวลาเปิดทำการ : จันทร์-เสาร์ (8.00-17.00 น.) โทร 02-896-1818
● ติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ : https://www.facebook.com/suthong1990