5 Axis CNC TURNING
2025-02-13 14:56:26

เครื่อง 5 Axis CNC TURNING

พูดถึงเครื่องจักรที่เป็นที่นิยมอันดับแรกๆ คงหนีไม่พ้นเครื่อง cnc 5 แกน ที่สามารถตอบโจทย์ทุกการทำงานได้อย่างราบรื่น และรวดเร็ว แต่บางส่วนยังไม่รู้ว่าเครื่อง 5 แกน ทำได้มากกว่าและมีข้อดีข้อเสียกับผู้ใช้งานอย่างไร บทความนี้จะสรุปข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเครื่อง CNC 5 แกนมาให้ทุกท่านได้พิจารณากัน ว่าการใช้งานเครื่องสามารถตอบโจทย์การผลิตของทุกท่านได้หรือไม่

 

เครื่อง CNC 5 แกนคืออะไร

เครื่อง cnc 5 แกน เป็นเครื่องจักรงานโลหะที่สามารถทำงานได้หลากหลาย จึงเป็นที่นิยมในงานที่มีลักษณะซับซ้อน โดยเครื่องจักรสามารถทำได้มากกว่าเครื่องปกติ คือ การเคลื่อนที่สามารถหมุนชิ้นงานได้รอบทิศทางในการทำงาน 5 แกนซึ่งโดยปกติแล้วเครื่องทั่วไปจะสามารถเคลื่อนได้ 2-3 แกน

 

 

คุณสมบัติของเครื่อง 5 AXIS

โดยเครื่อง 5 แกนเป็นเครื่องที่มีความสามารถสูงในการผลิตชิ้นส่วนโลหะที่ซับซ้อน คุณสมบัติการทำงานจึงจำเป็นต้องรองรับการระบบปฏิบัติการที่หลากหลายตามไปด้วย โดยมีคุณสมบัติของเครื่องดังนี้

ระบบแกนหมุน

  • แกน x,y,x (ขึ้น-ลง,ซ้าย-ขวา,หน้า-หลัง)
  • แกน A หรือ B (การเอียงหัวตัด)
  • แกน C (การหมุนโต๊ะ)

เป็นการตัดเฉือนชิ้นงานที่ไม่เปลี่ยนตำแหน่งการจับเลย

ความแม่นยำสูง

โดยเครื่อง 5 แกนส่วนใหญ่จะใช้ระบบการวัดค่าที่สูงเพราะว่าเป็นการจับงานครั้งเดียวเพื่อทำงานในการผลิตที่หลายขั้นตอนความแม่มยำจึงจำเป็นอย่างสูงเพื่อลดความผิดพลากในการผลิตโดยใช้

  • ใช้ระบบ Linear Scales และ Encoders เพื่อตรวจวัดตำแหน่งของเครื่องมือตัดแบบเรียลไทม์
  • มี Ball Screw และ Direct Drive Motor เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเคลื่อนที่
  • ค่าความคลาดเคลื่อนต่ำถึงระดับ ไมครอน (µm-Level Accuracy)

รองรับงานที่ทำซับซ้อน

  • โดยสามารถทำงานได้มากกว่าทั้งการกลึง กัด ปาด ในเครื่องเดียว
  • ไม่จับเป็นต้องเปลี่ยนการจับชิ้นงาน หรือเปลี่ยนการจับชิ้นงานให้น้อยที่สุด เพื่อลดความคลาดเคลื่อนเมื่อจับชิ้นงานใหม่
  • รองรับการทำงานที่ซับซ้อนและความละเอียดสูง

ใช้ระบบการควบคุมอัจฉริยะ

  • ใช้โปรแกรมที่คุณภาพสูงเนื่องจากต้องทำงานที่ซับซ้อน
  • ควบคุมโดยระบบ AI และการดูการทำงานบบเรียลไทม์
  • ควบคุมผ่านรีโมท ระยะใกล้ ไกลได้

ระบบการตัดเฉือนที่มีประสิทธิภาพสูง

  • หัว spindle รองรับการหมุนมากกว่า 10,000 – 50,000 รอบต่อนาที
  • ระบบระบายความร้อนขณะตัดชิ้นงาน
  • ระบบการเปลี่ยนเครื่องมือที่รวดเร็ว

รองรับการทำงานกับเครื่องประเภทอื่นๆ

  • รองรับการทำงานร่วมกันกับ Robot หรือเครื่องมือในกี่หยิบจับ หรือแม้แต่เครื่อง Loading
  • รองรับการติดตั้วเครื่องมือสำหรับวัดความแม่นยำในการผลิตชิ้นงาน

การทำงานกับวัสดุที่หลากหลาย

  • เครื่องจักรสามารถทำงานได้กับวัสดุที่หลากหลาย ทั้งสแตนเลส, อลูมิเนียม, ไทเทเนียม
  • ทำงานได้กับวัสดุที่มีความแข็งสูง

การทำงานร่วมกับสิ่งแวดล้อม

  • ระบบการทำงานของเครื่องเป็นระบบปิด ทำให้ไม่มีมลภาวะกับสิ่งแวดล้อมหรือแม้แต้ผู้ใช้งาน

 

 

ความแตกต่างระหว่าเครื่อง 3 แกนกับเครื่อง 5 แกน

ที่เห็นได้ชักคือความสามารถในการเคลื่อนที่ของการผลิตชิ้นงาน การทำงานที่ซับซ้อนได้มากว่าและต้นทุนการผลิต

การเคลื่อนที่ของแกน

เครื่อง 3 แกน – การเคลื่อนที่ ขึ้นลง,ซ้ายขวา,หน้าหลัง

เครื่อง 5 แกน – การเคลื่อนที่ ขึ้นลง,ซ้ายขวา,หน้าหลัง,มุมเอียง,โต๊ะตัด

งานที่เหมาะสม

เครื่อง 3 แกน – เหมาะกับงานประเภทที่ไม่ซับซ้อนเช่นงานป้าย, แม่พิมพ์พื้นฐาน, งานชิ้นส่วนเรียบ

เครื่อง 5 แกน – เหมาะกับงานประเภท 3 มิติ งานชิ้นส่วนที่ซับซ้อน เช่นตัวมอเตอร์, ใบพัด, ชิ้นส่วนยานยนต์, อุปกรณ์ทางการแพทย์

 

ความยากง่ายในการใช้งานร่วมถึงบุคลากรที่เหมาะกับการควบคุมเครื่อง 5 แกน

เนื่องจากเป็นเครื่องที่มีความซับซ้อนสูง การเลือกผู้ใช้งานจีงควรเลือกผู้ที่มีความรู้รวมถึงประสบการณ์ในการทำงานมาพิจารณา

  1. มีความรู้ในการทำงาน
  • ต้องมีความรู้ในด้านแบบ เช่นการดูแบบ เขียนแบบโดยโปรแกรมตั้งแต่พื้นฐานจนถึงโปรแกรมของเครื่องเฉพาะ เช่น CAD/CAM ที่นิยนใช้กันอย่างแพร่หลาย
  • มีความรู้ด้านการการจับชิ้นงานวิเคราะห์การทำงานของเครื่องได้
  • สามารถใช้ G-Code / M-Code ได้
  1. มีความรู้ในการติดตั้งเครื่องมือการทำงาน
  • สามารถวิเคราะห์กาติดตั้งเครื่องมือในแต่ละแกนได้ว่าควรติดตั้งลำดับใดในการผลิตชิ้นงาน
  1. มีความรู้ในการควบคุมการทำงาน
  • สามารถตัดสินใจได้อย่างดี เนื่องจากการทำงาน 5 แกนพร้อมกันบางครั้งเครื่องอาจจะมีการ Error ในการตรวจจับตำแหน่งผู้ดูแลควรสามารถสังเกตและควบคุมงานต่อได้
  1. การดูแลเครื่องจักร
  • เนื่องจากเครื่อง 5 แกนมีความซับซ้อนสูงทำให้ตัวเครื่องมีมูลค่ามาก ผู้ใช้งานความมีความรู้ด้านการดูแลและสังเกตุความผิดปกติเบื้องต้นของเครื่องเพื่อสามารถแจ้งตรวจเช็ค หรือว่าซ่อมบำรุงได้ทันเวลา

 

การบำรุงรักษา

ในการบำรุงรักษาเครื่อง 5 แกนจะค่อนข้างซ้บซ้อนกว่าเครื่องจักรชนิดอื่นๆ เพราะว่ามีการทำงานที่หลากหลายการดูแลลจึงจะเป็นต้องดูแลหลายส่วน และแต่ละส่วนก็ควรดูแลอย่างเหมาะสม

  1. การดูแลแบบป้องกัน

คือการป้องกันการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เป็นสิ่งที่ควรตรวจเช็คทุกวัน หรือทุกครั้งหลังใช้งานเครื่องเสร็จแล้ว

  • การทำความสะอาดเครื่องจักร
  • ตรวจระดับของเหลวภายในเครื่อง
  • ตรวจชิ้นส่วนที่มีการใช้การหล่อลื่นว่ายังสามารถใช้ได้อย่างปกติดีหรือไม่
  • การตั้งค่าศูนย์ของเครื่องจักร เครื่องมือ
  1. การตรวจเช็คตามระยะเวลา

คือการตรวจเช็คเครื่องอย่างละเอียดทุก 3-6 เดือน หรือปีละ 1 ครั้ง เพื่อเช็คความผิดปกติของเครื่องจักร

  • ตรวจเช็คระบบแกนหมุน ความเบี่ยงแบนของค่า
  • ตรวจระบบ servo motor
  • เปลี่ยนระบบน้ำ
  1. การบำรุงเมื่อเกิดปัญหา

คือการดูแลเมื่อส่วนใดส่วนหนึ่งมีความผิดปกติ อาการจะไม่ตายตัวซึ่งขึ้นอยู่ณ ตอนนั้นว่าอะไรเสียหายจึงทำการซ่อมบำรุงต่อไป

 

งานประเภทไหนที่ควรใช้เครื่อง CNC 5 แกน

อย่างที่มีการกล่าวมาข้างต้นว่าเครื่อง 5 แกนเหมาะกับงานที่ค่อนข้างซับซ้อน งานที่เหมาะส่วนใหญ่จึงเป็นงานที่ยากเช่น

  1. งานที่มีรูปทรงซับซ้อน (Complex Geometry Parts)

 ตัวอย่างงาน:

  • ใบพัดเทอร์ไบน์ (Turbine Blades)
  • ชิ้นส่วนเครื่องบิน (Aerospace Components)
  • อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีพื้นผิวโค้งซับซ้อน เช่น ข้อเข่าหรือข้อสะโพกเทียม
  • งานแม่พิมพ์ที่ต้องการความละเอียดสูง

 ทำไมต้องใช้ 5 แกน?

  • สามารถตัดเฉือนมุมที่ซับซ้อนได้โดยไม่ต้องพลิกชิ้นงาน
  • ลดการใช้ฟิกซ์เจอร์จับงาน (Fixtures) ช่วยลดระยะเวลาและต้นทุน

 

  1. งานที่ต้องการความแม่นยำสูงมาก (High-Precision Parts)

 ตัวอย่างงาน:

  • ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่ต้องการค่าความเผื่อ (Tolerance) ต่ำ
  • อุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น ข้อต่อกระดูกไทเทเนียม
  • เครื่องมือวัดละเอียด

 ทำไมต้องใช้ 5 แกน?

  • ลดข้อผิดพลาดจากการเปลี่ยนตำแหน่งชิ้นงานหลายรอบ
  • สามารถควบคุมความแม่นยำระดับไมครอนได้

 

  1. งานที่ต้องการลดเวลาการผลิต (Efficiency & Productivity)

 ตัวอย่างงาน:

  • งานที่ต้องใช้การกัดจากหลายมุม เช่น ใบพัด, เกียร์, หรืออุปกรณ์การแพทย์
  • งานที่มีรายละเอียดหลายด้านและต้องการลดจำนวนครั้งในการ Set Up

 ทำไมต้องใช้ 5 แกน?

  • สามารถทำงานได้ ในรอบเดียว (One Setup Machining)
  • ลดเวลาการผลิตและลดต้นทุนเครื่องมือจับยึด

 

  1. งานที่ใช้วัสดุพิเศษ (Hard-to-Machine Materials)

 ตัวอย่างงาน:

  • โลหะหนัก เช่น ไทเทเนียม, อินโคเนล (Inconel), ทังสเตน
  • พลาสติกวิศวกรรมที่ต้องการความแม่นยำสูง

 ทำไมต้องใช้ 5 แกน?

  • สามารถใช้เครื่องมือมุมที่เหมาะสมเพื่อช่วยลดแรงตัดและการสึกหรอของเครื่องมือตัด
  • ลดความผิดเพี้ยนของชิ้นงานจากแรงตัดที่ไม่สมดุล

 

  1. งานที่ต้องการพื้นผิวเรียบพิเศษ (Superior Surface Finish)

 ตัวอย่างงาน:

  • แม่พิมพ์ฉีดพลาสติก (Injection Mold)
  • ชิ้นส่วนที่ต้องมีผิวสัมผัสเรียบ เช่น ใบพัดหรืออุปกรณ์ตกแต่งระดับพรีเมียม

 ทำไมต้องใช้ 5 แกน?

  • สามารถใช้วิธีตัดเฉือนที่เหมาะสม ลดเส้นรอยตัดและเพิ่มคุณภาพของพื้นผิว
  • ใช้มุมกัดที่ลดแรงตัดและลดการเกิดเสี้ยน

 

ข้อดีของการลงทุนในเครื่อง 5-Axis CNC Turning

ลดระยะเวลาในการผลิต (Faster Production Time)

  • เครื่องสามารถกัดและกลึงหลายด้านในครั้งเดียว (One-Setup Machining)
  • ลดจำนวนครั้งที่ต้องย้ายชิ้นงาน ลด Lead Time

ลดต้นทุนแรงงาน (Lower Labor Costs)

  • ใช้แรงงานน้อยลง เพราะเครื่องจักรสามารถทำงานได้ อัตโนมัติ มากขึ้น
  • ลดความผิดพลาดจากแรงงานมนุษย์

สามารถผลิตชิ้นงานที่ซับซ้อนขึ้น (High Complexity & Precision)

  • งานที่ 3 หรือ 4 แกนทำไม่ได้ เช่น ใบพัด, แม่พิมพ์ซับซ้อน, ชิ้นส่วนอากาศยาน

สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

  • สามารถรับงานที่มี มูลค่าสูง ได้ เช่น อุตสาหกรรมการแพทย์, การบิน, ยานยนต์ไฟฟ้า
  • เพิ่มกำไรต่อหน่วย เนื่องจากสามารถผลิตชิ้นงานคุณภาพสูงที่คู่แข่งทำไม่ได้

 

ข้อเสียและความเสี่ยง

ต้นทุนเริ่มต้นสูง

  • ต้องมีงบประมาณเพียงพอสำหรับการลงทุนและการบำรุงรักษา

ต้องใช้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ

  • ต้องมี CNC Programmer & Machinist ที่สามารถเขียนโปรแกรม 5 แกนได้
  • ค่าฝึกอบรมพนักงานเพิ่มเติม

ต้องมีงานที่เหมาะสมกับเครื่อง

  • ถ้าใช้เครื่อง 5 แกนแต่ผลิตงานที่เครื่อง 3 แกนทำได้ จะไม่คุ้มค่าการลงทุน